สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการทำความเข้าใจ กฎกติกาบาคาร่า ให้ถ่องแท้เสียก่อน เพื่อให้รู้ว่าตนเองกำลังเล่นอะไรและมีโอกาสชนะมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ เพื่อให้การเล่นบาคาร่าเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกที่สุด วันนี้เราจึงจะมาทำความรู้จักกับกฎเกณฑ์สำคัญๆ ของบาคาร่ากัน เพื่อให้มือใหม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และนักเดิมพันตัวยงก็ยังสามารถนำไปปรับใช้เป็นเคล็ดลับเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะได้อีกด้วย
พื้นฐานที่ควรรู้ กฎกติกาบาคาร่า แบบง่ายๆ สำหรับมือใหม่หัดเดิมพัน
สำหรับผู้ที่กำลังจะหัดเล่นบาคาร่า สิ่งแรกที่ควรจะต้องทำความเข้าใจให้ดีก็คือ กฎกติกาบาคาร่า โดยทั่วไปของเกมนี้ ซึ่งโดยปกติแล้ว บาคาร่าจะเป็นการเล่นไพ่ระหว่างผู้เล่นและเจ้ามือ โดยใช้ไพ่ป๊อกหรือไพ่ฝรั่งเป็นอุปกรณ์หลัก ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะได้รับไพ่ฝ่ายละ 2 ใบเพื่อนำมาคำนวณแต้มตามหลักเกณฑ์ดังนี้
- ไพ่ A มีค่า 1 แต้ม
- ไพ่ 2 9 มีค่าตามแต้มบนหน้าไพ่ เช่น ไพ่เลข 2 มีค่า 2 แต้ม
- ไพ่ 10 และไพ่ J Q K มีค่าเป็น 0 แต้ม
- ถ้าไพ่ 2 ใบรวมกันได้เกิน 10 แต้ม ให้นับเอาแค่เลขหลักหน่วย เช่น ได้ 8+9 รวมเป็น 17 แต้ม จะนับเป็น 7 แต้ม
- แต้มสูงสุดของบาคาร่า คือ 9 แต้ม เรียกว่าบาคาร่า หากได้ไพ่สองใบรวมกัน 8 แต้ม ก็จะเป็นแต้มที่สูงรองลงมา
ส่วนเป้าหมายของเกมบาคาร่านั้น ผู้เล่นจะต้องทายผลให้ได้ว่าไพ่ของฝ่ายใด ระหว่างผู้เล่นหรือเจ้ามือ จะมีแต้มใกล้เคียงหรือเท่ากับ 9 แต้มมากที่สุด ซึ่งผู้เล่นจะต้องทำการวางเดิมพันก่อนการแจกไพ่จะเริ่มขึ้น โดยมีตัวเลือกให้เลือกเดิมพัน 3 รูปแบบหลักๆ คือ
- เดิมพันฝั่งผู้เล่น Player หากไพ่ฝั่งนี้มีแต้มสูงกว่า จะจ่ายเงินเดิมพันเป็น 1 เท่า
- เดิมพันฝั่งเจ้ามือ Banker หากไพ่ฝั่งนี้มีแต้มสูงกว่า จะจ่ายเงินเดิมพันเป็น 1 เท่า 5% หรือ 0.95 เท่า แล้วแต่กติกาของโต๊ะ
- เดิมพันเสมอ Tie หากไพ่ทั้งสองฝ่ายออกมาเท่ากัน จะจ่ายเงินเดิมพันเป็น 8 เท่า หรือ 9 เท่า แล้วแต่กติกาของโต๊ะ
ในบางครั้ง หลังจากแจกไพ่รอบแรกไปแล้ว 2 ใบ หากไพ่ของฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีแต้มรวมกันเป็น 0 1 2 3 4 หรือ 5 แต้ม โต๊ะจะทำการแจกไพ่ใบที่ 3 เพิ่มเติมให้โดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำแต้มสูงสุดให้ได้ ซึ่งเรียกไพ่ใบที่ 3 นี้ว่า ไพ่ลูกหรือไพ่ฮิต โดยมีกฎการจั่วไพ่ใบที่ 3 ดังตารางต่อไปนี้
- Player หากผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบแรกรวมกันได้ 0 1 2 3 4 หรือ 5 แต้ม จะจั่วไพ่ใบที่ 3 ทันที
- Banker 0 1 2 แต้ม จั่วไพ่ใบที่ 3 เสมอ
- Banker 3 แต้ม ถ้าผู้เล่นจั่วไพ่ใบที่ 3 แล้วได้ 8 แต้ม จะไม่จั่ว แต่ถ้าไม่ใช่ จะจั่ว
- Banker 4 แต้ม ถ้าผู้เล่นจั่วไพ่ใบที่ 3 แล้วได้ 2 3 4 5 6 7 จะจั่ว แต่ถ้าไม่ใช่ จะไม่จั่ว
- Banker 5 แต้ม ถ้าผู้เล่นจั่วไพ่ใบที่ 3 แล้วได้ 4 5 6 7 จะจั่ว แต่ถ้าไม่ใช่ จะไม่จั่ว
- Banker 6 แต้ม ถ้าผู้เล่นจั่วไพ่ใบที่ 3 แล้วได้ 6 7 จะจั่ว แต่ถ้าไม่ใช่ จะไม่จั่ว
- Banker 7 ขึ้นไป ไม่จั่วไพ่ใบที่ 3
กฎกติกาบาคาร่า สำคัญไม่แพ้กับกฎในการแจกไพ่ควรศึกษาให้เข้าใจ
ถึงแม้ว่ากฎในการแจกไพ่จะเป็นองค์ประกอบหลักของบาคาร่าก็ตาม แต่กฎเกณฑ์ในส่วนของการวางเดิมพันก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะมันจะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะสามารถทำเงินจากเกมนี้ได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งกติกาหลักๆ ของการเดิมพันบาคาร่า มีดังต่อไปนี้
- เราจะต้องวางเดิมพันก่อนที่เจ้ามือจะเริ่มแจกไพ่เท่านั้น หลังจากแจกไพ่ไปแล้วจะไม่สามารถวางเพิ่มหรือเปลี่ยนใจได้
- การวางเดิมพันทำได้โดยการวางชิปหรือเงินเดิมพันลงในช่องเดิมพันที่ต้องการ ได้แก่ Player, Banker หรือ Tie
- วงเงินขั้นต่ำและสูงสุดในการวางเดิมพันแต่ละครั้งจะถูกกำหนดโดยทางผู้ให้บริการ ซึ่งควรศึกษาให้ดีก่อนเริ่มวางเงิน
- หากวางเดิมพันถูก จะได้รับเงินตามอัตราการจ่ายดังนี้ Player และ Banker จ่าย 1 ต่อ 1 ส่วน Tie นั้นจ่ายสูงถึง 8 หรือ 9 เท่าของยอดเดิมพัน
- กรณีที่วางเดิมพัน Banker ชนะ ทางเจ้ามือจะหักค่าคอมมิชชั่น 5% จากยอดที่ชนะ ก่อนจ่ายเงินให้เรา
- หากวางเดิมพันผิดทั้งหมดหรือไม่ถูกสักฝั่ง จะถือว่าแพ้และเสียเงินเดิมพันนั้นไปตามจำนวนที่วางไว้
- เงินเดิมพันที่ชนะจะถูกจ่ายหลังจากเจ้ามือทำการรวบไพ่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเริ่มแจกไพ่ใหม่ในตาถัดไป
- นอกจากกติกาพื้นฐานดังกล่าวแล้ว ยังมีข้อกำหนดพิเศษเสริมเข้ามาในบางโต๊ะหรือบางคาสิโน ที่อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจวางเดิมพันของเราได้ เช่น
- การเดิมพันแบบ Pair หรือ Super Six ที่เป็นการทายผลว่า Player หรือ Banker จะได้ไพ่คู่หรือไพ่ 6 แต้ม ซึ่งมีอัตราการจ่ายสูงถึง 11 หรือ 12 เท่า
